iporo998.com  บรูโน่ แฟร์นันด์ส ประกาศว่าตนสามารถพัฒนายิ่งกว่านี้อีก

บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศก้องตนสามารถพัฒนาศักยภาพมากยิ่งขึ้นกว่านี้ในฤดูกาล 2020/2021 หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น กับ การเล่นให้กับยอดทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น

กองกลาง ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาเล่นกับ “ปีศาจแดง” เมื่อช่วงเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะ รอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย นักเตะสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด จนกลายเป็นแกนหลักของทีม พร้อมทั้งซัดไป 12 ประตู กับ 8 แอสซิสต์จากการเล่นทุกรายการให้ กับ ต้นสังกัด

ที่สำคัญ แฟร์นันด์ส กลายเป็นตัวหลักของต้นสังกัดในการซัดจุดโทษให้ กับ ทีมด้วย โดย งานนี้ มิดฟิลด์วัย 25 ปี แสดงความมั่นใจว่าตนจะทำผลงานได้กระฉูดยิ่งกว่านี้ในฤดูกาลใหม่ “เมื่อเราเสียบอล ผมพยายามที่จะเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง และ เรียกให้ผู้เล่นแนวรุกคนอื่นช่วยแย่งบอลกลับมา”

“แน่นอนว่า สำหรับผม เพื่อที่จะพยายามสร้างเกมจะต้องรีบครองบอล และผ่านให้ กับ เพื่อนร่วมทีมเพื่อที่พวกเขาจะได้มีโอกาสในการยิงประตู มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมทำได้บ่อยๆ เพราะ ผมมักจะแอสซิสต์ได้ แต่ผมยังสามารถช่วยทีมได้มากกว่านี้ ผมเชื่อว่า ผมสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองเพื่อสร้างคุณภาพในด้านหน้าของเราได้อีก” แฟร์นันด์ส ระบุ

ด้านโรนัลดินโญ่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล และ โรแบร์โต้ เดอ อาสซิส พี่ชายของเขาที่กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก หลังถูกจับขังคุก คัวดริลาเทโร่ ในประเทศปารากวัย โทษฐานใช้เอกสารทางราชการปลอมในการเดินทางเข้าประเทศเพื่อนบ้าน

โดยทั้งคู่ถูกจับกุม เมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังได้รับเชิญให้เดินทางมายังประเทศปารากวัย เพื่อร่วมงานการกุศล ซึ่ง พาสปอร์ตปลอมดังกล่าวสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้แบบไม่มีปัญหา แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บุกเข้าจับตัวพวกเขาในห้องของโรงแรม

ล่าสุด ศาลในประเทศปารากวัย ได้ตัดสินให้ โรนัลดินโญ่ อดีตแข้งแซมบ้า และ พี่ชายของเขา ได้รับการปล่อยตัว และสามารถเดินทางกลับประเทศบราซิลได้ทันที หลังทั้งคู่ยอมรับผิดตามเงื่อนไข และ ยอมเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 90,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท)

ขณะที่พี่ชายของเขาจะโดนค่าปรับ 110,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) แต่ยังต้องติดประวัติอาชญากรรมในปารากวัย ทำให้จะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศบราซิลได้เป็นระยะเวลา 2 ปี ด้วยกัน พร้อมทั้งจะต้องรายงานตัวเป็นระยะ

สำหรับเรื่องราวของ อดีตดาวเตะวัย 40 ปี กลายเป็นข่าวใหญ่ตลอดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงการที่เจ้าตัวเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลในเรือนจำ ก่อนวาดลวดลายในสนามได้แจ่มเหมือนเคย ด้วยการขับเคลื่อนเกมได้เหนือกว่าบรรดาผู้เล่นทุกคนในสนาม ก่อนทำไป 5 ประตู 6 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมของตัวเองเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ขาดลอย 11-2 พร้อมทั้งได้หมูตัวใหญ่เป็นรางวัล

ควันหลงเกมที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมดังจากฝรั่งเศส ต้องอกหักหลังเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ, โปรตุเกส เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563

โดยในช่วงจังหวะ ที่มีพิธีมอบเหรียญรางวัลนั้น เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิลของ เปแอสเช ได้เดินผ่านถ้วยใบใหญ่ ก่อนสัมผัสมันด้วยความผิดหวัง พร้อมทั้งมีน้ำตาไหลออกมาก่อนที่จะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ถึงขั้นร้องไห้อย่างหนัก

เท่านั้นยังไม่พอ แข้งแซมบ้าวัย 28 ปี ยังเดินไปนั่งร้องไห้แบบไม่อายใครในซุ้มม้านั่งสำรองอย่างหนักเป็นเวลานาน ก่อนที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เพื่อนร่วมทีม และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพื่อนร่วมทีมชาติ เดินเข้ามาปลอบเจ้าตัว

สำหรับ เนย์มาร์ หวังกับการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นอย่างมาก หลังพาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่ง ท้ายสุดเจ้าตัวก็ต้องผิดหวัง อย่างไรก็ตามเจ้าตัวเคย คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วเมื่อฤดูกาล 2014–15 สมัยยังค้าแข้งอยู่กับ บาร์เซโลน่า อดีตต้นสังกัดในศึก ลา ลีกา สเปน

——————————————————————–

ติดต่อสอบถาม รับโปรโมชั่น ภายในเดือนนี้ และโบนัสร้อนแรง ได้ที่ Line: @ipro998